ก่อนหน้านี้ธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าอบผ้าแบบหยอดเหรียญ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ธุรกิจสะดวกซัก”เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการทำแบรนด์อย่างจริงจัง และยังเป็นแค่การหยอดเหรียญธรรมดา
แต่ในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาจากประเทศอื่น ๆโดยเข้ามาเพิ่มความสะดวกในการซัก จนสามารถสร้างมูลค่าให้อุตสาหกรรมนี้ได้มากถึง 4,599 ล้านบาท(ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2561)
แล้วทำไมธุรกิจสะดวกซัก ถึงเติบโต ในเมื่อหลายครัวเรือนก็มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเองลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง และอาศัยอยู่ในเมืองค่อนข้างมากหรืออยู่ในช่วงที่เรียกว่า การขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization)ซึ่งการเข้ามากระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ส่งผลให้ผู้คนต้องแข่งขันและเร่งรีบกันอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นธุรกิจที่สามารถเข้ามาช่วย “ซื้อเวลา” โดยเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆให้กับคนในเมืองได้ ก็จะมีโอกาสเติบโตและธุรกิจสะดวกซัก คือหนึ่งในธุรกิจที่ช่วยซื้อเวลาให้กับคนเมืองได้ไม่น้อยทำไมธุรกิจสะดวกซักในปัจจุบัน ถึงช่วยซื้อเวลาให้กับคนเมืองได้ ?
หลังจากที่ประเทศไทยนำเข้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครื่องซักอบผ้าจากต่างประเทศเข้ามาทำให้รูปแบบการให้บริการนั้นสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น
– มีการพัฒนาเรื่องความสามารถในการรองรับการชำระเงินได้ทั้งแบบหยอดเหรียญและสแกน QR Code ซึ่งผู้ใช้บริการก็ไม่ต้องเสียเวลาไปหาร้านมาแลกเหรียญ
– พัฒนาระบบเครื่องซัก เช่น มีระบบจ่ายน้ำยาอัตโนมัติที่เติมเข้าเครื่องได้เอง โดยที่ลูกค้าไม่ต้องพกมา
– ธุรกิจสะดวกซักจะมาพร้อมเครื่องอบที่มีคุณภาพระดับสูง ทำให้ผ้าแห้งเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาตากและเก็บให้ยุ่งยาก
ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ก็ได้มีการสร้างแบรนด์ธุรกิจสะดวกซักกันอย่างจริงจังและขยายแฟรนไชส์ ตามที่พักอาศัย ตามแหล่งชุมชน เพื่อให้เข้าใกล้กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
และแบรนด์ “WASHENJOY” คือหนึ่งในตัวอย่างธุรกิจสะดวกซัก ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวก ต้องการประหยัดเวลา และต้องการลดความยุ่งยากในการซักและอบผ้าและยังเปิดขายแฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจ ที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย
WASHENJOY เป็นแบรนด์สะดวกซักสัญชาติเกาหลี ภายใต้บริษัท Korea Laundry Company (KLC) และมีธุรกิจสะดวกซักกว่า 700 สาขา ภายในเวลา 8 ปี
WASHENJOY เลือกใช้เครื่องซักและเครื่องอบ ที่มีคุณภาพจากสวีเดนนั่นก็คือ Electrolux Professional ซึ่งแบรนด์นี้ มีอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ปีและตัวเครื่องสามารถประหยัดน้ำและประหยัดไฟได้ถึง 10 เท่า
ทำให้ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ WASHENJOY มีต้นทุนหลัก ๆ ที่ต้องจ่ายต่อเดือน เพียงแค่ค่าน้ำและค่าไฟมีระบบการชำระเงินแบบหยอดเหรียญ และแสกน QR Code ที่หน้าจอเครื่อง และจากแอปพลิเคชันมีระบบสมาชิก สะสมแต้ม และเติมเงินให้กับผู้ใช้บริการภายในเครื่องซักก็มีโปรแกรมซักฆ่าเชื้อ (Anti-bacteria) ซึ่งมาจากห้องแล็ปของ ECOLAB ทำให้ระบบจ่ายน้ำยาอัตโนมัติที่เติมเข้าเครื่องนั้นได้มาตรฐาน มีความสะอาดปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสำหรับผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ของ WASHENJOY ก็จะมี Call Center คอยช่วยแก้ปัญหา 24 ชั่วโมง
1. ทาง WASHENJOY ระบุว่า ธุรกิจสะดวกซักนี้ให้ผลตอบแทนที่สูงโดยมีค่า ROI เฉลี่ย 20 – 30% จากงบประมาณการลงทุน
2. WASHENJOY มีระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 3 – 5 ปี
3. ใช้ทรัพยากรน้อย ไม่ต้องมีพนักงานประจำ ไม่ต้องสต็อกของและใช้เงินลงทุนตั้งต้น ประมาณ 2 – 3 ล้านบาท
4. ธุรกิจสะดวกซักมีโอกาสเติบโตจากข้อมูลและสถิติของ WASHENJOY ที่ประเทศเกาหลีใต้และมาเลเซียร้านสะดวกซัก 1 ร้าน เฉลี่ยแล้วจะสามารถครอบคลุมพื้นที่บริการได้ประมาณ 4,000 ครัวเรือน หรือคิดเป็นประมาณ 10,000 คน โดยจากจำนวนนี้ จะมีประมาณ 40% ที่มีโอกาสจะใช้บริการสะดวกซักด้วยตัวเลขนี้ก็เท่ากับว่าถ้าอยากให้มีร้านบริการครอบคลุมได้ทั้งประเทศก็อาจจะต้องมีจำนวนมากถึง 7,000 ร้านถึง
แม้ว่าในความเป็นจริง เราคงไม่ได้จำเป็นต้องมีจำนวนร้านที่มากขนาดนั้นแต่หากดูจากจำนวนร้านสะดวกซักในปัจจุบัน ที่รวมกันทุกแบรนด์ในตอนนี้ ยังมีเพียงแค่ 700 – 800 ร้านเท่านั้น ก็ถือว่ายังมีพื้นที่ให้ธุรกิจนี้เติบโตไปได้อีก
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์กับ WASHENJOYสามารถสอบติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://washenjoythai.com/ หรือโทร 098-902-6659
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ระบุว่า ภายในปี 2050 ประชากรไทยกว่า 75% จะกลายเป็นคนเมืองซึ่งก็แปลว่านับจากนี้ผู้คนในเมืองก็จะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆและธุรกิจที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตของคนเมือง ก็จะมีโอกาสเติบโต ตามไปด้วยเช่นกัน..
References :
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า